คือได้สิทธิได้จาก MGen มา ดู 1 แถม 1 ก็เลยลากแก๊งค์พี่ๆ คอหนังไปดูกันเหมือนเดิม จริงๆ ใน List หนังที่เข้าและยังไม่ออกในช่วงนี้ ถ้าถามว่ามีเรื่องไหนน่าดู จริงๆ อยากดู Ted มาก แต่ยังไม่เข้า ก็เลยสนับสนุน Animation ไทยซักหน่อย อีกอย่างเหมือนที่ผมบอกว่าผมชอบเสพย์พวกงานศิลป์แนว Animation ด้วย ก็เลยได้ดู เอคโค่ (Echo Planet) จิ๋วก้องโลก จนได้
สำหรับ Echo จิ๋วก้องโลก เป็นแอนนิเมชั่นจากผู้สร้างเรื่อง ก้านกล้วย ก็คือบริษัท กันตนา หมายความว่า นี่คือ Animation สายพันธุ์ไทยนี่เอง บอกไว้ก่อนว่าที่ผมไปดูเป็นแค่ 2D Digital นะครับ เลยไม่สามารถบรรยายได้ว่า 3D เป็นยังไง
เอคโค่ … เสียงก้องจากโลกใบใหญ่
เนื้อเรื่องคร่าวๆ เป็นเรื่องของเด็กสาวชาวกะเหรี่ยง หน่อวา กับน้องชายที่มีความสามารถคุยกับธรรมชาติได้ ตั้งแต่ต้นไม้ไปจนถึงสัตว์ต่างๆ จ่อเป ที่วันหนึ่งได้พบกับลูกชายประธานาธิบดีจาก Capital City แซม ที่ต้องมาช่วยกันกู้โลกใบนี้จากหายนะของผีไฟ ที่เกิดจากการภาวะเรือนกระจกที่มนุษย์สร้างขึ้นมา (คือถ้าเล่ามากกว่านี้ คงจะไม่สมควรจริงๆ :P)
สาระสำคัญของเรื่องนี้ ก็เล่นประเด็นของภาวะโลกร้อนแบบตรงตัวเลยทีเดียว คือถ้าจะดูเรื่องนี้ ผมอยากให้คุณเข้าไปในฐานะเด็กคนนึงที่อยากช่วยกู้โลก (ฮา) เพราะหนังเล่นกับความเป็นเด็กทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการที่น้องชายสามารถสื่อสารกับธรรมชาติได้ ก็เหมือนเด็กที่คุยกับของเล่นได้เหมือนมีชีวิต หรือความซุกซนของเด็กที่ทำให้ผู้ใหญ่ปวดหัวได้อยู่เสมอ ทีนี้หนังเล่นกับการแทนเจ้าสิ่งที่เรามองไม่เห็นให้เป็นสิ่งมีชีวิต คือให้เด็กดูแล้วเข้าใจ เช่น ผีไฟ ก็คือเจ้าความร้อนที่เข้ามาทำให้โลกร้อนขึ้น หรือ งูใหญ่ ที่เป็นพลังงานไฟฟ้า นั่นเอง ฉะนั้น ผมแนะนำว่า ถ้าพาเด็กไปดู รับรองว่าเด็กจะซึมซาบกับสิ่งที่เค้าสื่อสารออกมาจากหนังได้เป็นอย่างดี แต่…ถ้ามองในมุมมองของวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ รับรองว่าเรื่องนี้ไม่ผ่านเท่าไหร่ ผมขอใช้คำว่า หนังโลกสวย เลยละกัน คือหนังมันทำให้ดูโลกสวยเกินไป เช่น โลกแทบจะระเบิดเป็นหนัง 2012 อยู่ละ แต่การแก้ปัญหาเรื่องนี้จุดไต้ตำตอมาก (พูดไม่ได้ๆ เดี๋ยวสปอยด์) หลังๆ นี่เหมือนพยายามจะสื่อด้วยภาพให้เด็กอย่างเดียว ทำให้หนังจืดไปโดยปริยาย ส่วนความสนุกก็มีออกมาเป็นพักๆ ไม่ถึงกับขำกร๊าก แต่ก็ถือว่าออกมาก็อมยิ้มได้พอสมควร
มุมมองของนักพากษ์ ถือว่าโอเค ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป สามารถทำให้เราอินกับตัวละครนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเสียงของ จ่อเป ที่ทำให้ฟังแล้วคิดว่าตัวละครตัวนั้นมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ เลยทีเดียว
อีกอย่างที่คิดว่า กันตนา จะขาดไม่ได้เลยก็คือ การสร้างตัวการ์ตูนประเภทสัตว์ออกมา เพราะตัวเองก็ดังมาจาก ก้านกล้วย จะขาดเจ้าพวกสัตว์มาสร้างสีสันไม่ได้ ก็เลยมีตัว ชะมด(?) ที่ออกมาเล่นให้ฮาเป็นพักๆ หรือสัตว์ที่ยกมาทั้งป่าให้ได้ชื่นชมผลงานกัน
ทางด้านการสร้าง ผมไม่คิดจะเทียบกับ Hollywood นะ เพราะคิดว่าศักยภาพของคนไทยเจ๋งที่สุดแล้วที่ทำได้ขนาดนี้ ถึงแม้งานจะไม่เนียบเท่าที่ควร คือ มองออกเลยว่าตัวการ์ตูนขยับเหมือนทรงกระบอกเลย และคิดว่าผู้กำกับคงอยากจะเน้นตัวละครมากกว่า เลยทำให้ฉากต่างๆ มันดูดรอปลงไปเลย โดยรวมถือว่างานแบบนี้ก็เทียบชั้นกับระดับโลกได้ไม่ยากเท่าไหร่ (ถ้างานกำกับดีกว่านี้อีกนิดนึง)
หลังจากที่เครดิตหนังขึ้น จริงๆ ก็สงสัยตั้งแต่ดูแลวว่า ทำไมงานเสียงออกมาถือว่าทำได้เยี่ยมจริงๆ พอเห็นเครดิตปั๊บ แทบจะยกพนักงานสตูดิโอมาทั้งห้องเลย (ฮา) คือรายละเอียดด้านเสียงนี่งานเนียบจริงๆ ทำให้ระบบ Digital ที่ทำออกมาใช้คุ้มค่าแล้ว อีกทั้ง ขอชื่นชมทีมงานในการทำการบ้านเรื่องวัฒนธรรมของคนกะเหรี่ยง ที่เค้าจะมีประเพณีนึงที่ชื่อว่า บวชป่า ซึ่งเค้าสามารถนำเรื่องนี้มาถ่ายทอดได้อย่างน่าสนใจ ยังไม่หมดนะครับ เรื่องของเพลงประกอบภาพยนตร์ ต้องบอกว่า เจ๋งมาก เพราะเพลงที่นำมาประกอบได้ แพรว คณิตกุลและศิลปินไทยภูเขาชาวปาเก่อ ชิ สุวิชาญ มาร่วมขับร้องในเพลง ฟัง สิ ฟัง สิ ฟัง ที่พอได้ยินเมโลดี้ของเพลง กลิ่นอายของภาคเหนือฟุ้งเต็มหนังเรื่องนี้เลย อีกทั้งเพลงที่ประกอบเครดิตของหนังเรื่องนี้ ฉันจะดูแลเธอให้ดีกว่าที่ผ่านมา โดย อัยย์ วีรานุกูล ก็ถือว่าสอบผ่าน เพราะทำให้ฟังแล้วติดหูง่ายเหมือนกัน
โดยสรุปแล้ว หนังเรื่องนี้โอเคในหมู่เด็กๆ มากถึงมากที่สุด ส่วนผู้ใหญ่ที่อยากดู ก็อยากให้เข้าไปรับรู้ว่า เด็กเค้าต้องการสื่ออะไรให้เราเข้าใจละกัน ที่สำคัญหนังส่งสัญญาณเตือนให้มนุษย์เริ่มหยุดการกระทำที่ทำให้โลกร้อนได้เป็นอย่างดี โดยใช้เด็กเป็นตัวสื่อสารถึงผู้ใหญ่ เพราะเค้าเชื่อว่าคำพูดของเด็กถือว่าเป็นคำพูดที่จริงใจ ฉะนั้นก็ช่วยกันรักษาโลกใบนี้ไว้ให้ลูกหลานของเรากันดีกว่า และอย่าลืมอุดหนุนอุตสาหกรรม Animation ของไทยกันด้วยนะครับ 😀
ฝากไว้ ให้คิด…
ใครที่พอจะนึกออกว่า เจ้าสิ่งนี้ มันไปปรากฎอยู่ในเกมไหนมาก่อน
โปรด Comment ทิ้งไว้ที่ด้านล่างทีนะครับ ข้องใจจริงๆ ว่ามันมาจากไหน…