ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น…
คุณตาเพิ่งเสียครับ ท่านจากไปด้วยโรคภาวะแทรกซ้อนมากมาย แล้วก็เพิ่งฌาปนกิจไปเรียบร้อย ซึ่งในวันฌาปนกิจก็ได้มีโอกาสฟังเทศน์จากพระที่วัด ท่านได้เล่าเคสเรื่องของสามีที่มีภรรยา 4 คน วันหนึ่งยมบาลบอกว่าสามีจะตายใน 7 วัน ด้วยความกลัวสามีคนนั้นเลยไปถามภรรยาทั้ง 4 ว่าใครรักเรา ก็ให้ตายไปกับเรา สุดท้ายก็ไม่มีใครอยากไปเพราะไม่อยากตาย ถึงแม้ความตายจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงกันไม่ได้ มนุษย์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ บนโลกที่เดินไปตามการไหลของเวลา ผมมองว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์อยากจะเดินออกมาจากความตายคือ เวลา ทุกคนไม่อยากแก่ อยากมีชีวิตสุขสบาย อยากเดินได้ ฟังเพลงได้ มีความสุขตามกำลังของตัวเองได้โดยไม่แก่ แต่ก็คงไม่มีมนุษย์คนไหนที่หนีมันพ้นหรอกครับ ต่อให้เรายิ่งหลีกหนี เราก็จะยิ่งเจ็บปวด ซึ่งเวลานี่เอง ที่เป็นสารเร่งความเจ็บปวดชั้นดี เพราะเมื่อเวลาผ่านไป เราก็อายุมากขึ้น คนรอบข้างเราก็จะล้มหายตายจากกันไปตามกาลเวลาเช่นกัน แล้วยิ่งถึงเวลาที่เราต้องสูญเสียคนรักไป โดยเฉพาะพ่อหรือแม่ของเรา ผมว่ามันคงเป็นช่วงเวลาที่บาดเจ็บที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เพียงแต่ว่าจะบาดเจ็บมากหรือน้อย มันก็ขึ้นอยู่กับวิธีการของการจากลานั้นๆ ทุกๆ วันผมได้แต่คิดว่าวันนึงถ้าต้องสูญเสียคนรักไป ไม่ว่าจะพ่อแม่เพื่อนฝูงมันจะรู้สึกอย่างไรในเวลานั้น แล้วเราจะผ่านมันไปได้อย่างไร แล้วถ้าถึงคราวของตัวเองหละ เมื่อเราเสร็จสิ้นภารกิจในการไหลตามกาลเวลา เวลานั้นเราจะเป็นอย่างไร คนอื่นจะมาเสียใจเพราะเรามั้ย เราก็ไม่อยากให้เค้าเจ็บปวดเพราะเราเหมือนกัน มีคำสอนในศาสนาพุทธที่บอกว่า ‘ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย’ แต่เอาเข้าใจ ถึงเราไม่ประมาท ก็อาจจะตายได้เช่นกัน เหมือนหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมาเช่น ขับรถอยู่ดีๆ […]
การเดินทางของเด็กชายไม่เพอร์เฟค
เด็กชายคนหนึ่ง เป็นแค่คนๆ นึงที่ไม่ได้เพอร์เฟคอะไร หน้าตาไม่หล่อ เรียนก็ไม่ได้เก่งเทพ เอาตัวรอดไปวันๆ ได้ เป็นแค่เด็กชายคนนึงที่ไม่ได้มีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นอะไรตั้งแต่เด็ก ไม่ได้โดนสังคมหรือครอบครัวบังคับให้เรียนหรือเป็นอะไรตามใจ เด็กชายคนนี้เป็นเด็กต่างจังหวัดที่ชีวิตอยู่แต่กับสิ่งสวยงาม ไม่โดดเรียน ไม่ทำตัวนอกลู่นอกทาง โตขึ้น เด็กชายคนนี้แค่ใช้ของมหัศจรรย์เป็น แต่เด็กชายไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ของมหัศจรรย์ชิ้นนั้นทำอย่างไร ? เด็กชายอดทนเรียนจนใกล้จะจบเต็มทีแล้ว จนรู้ว่า ของมหัศจรรย์ชิ้นนั้นทำได้อย่างไร เด็กชายคนนี้ใกล้จะได้กลับไปมอบของขวัญที่พ่อแม่อยากได้ นั่นคือ ความรู้ในการสร้างสิ่งมหัศจรรย์ มันคือสิ่งที่พ่อแม่ให้เด็กชายไม่ได้ แต่ท่านต้องการให้มันอยู่กับเด็กชายตลอดไป เพื่อการเดินทางต่อไปในอนาคต ซึ่งระหว่างเดินทางอยู่ในวังวนของความรู้ เด็กชายก็คว้าประสบการณ์มากมาย ได้เจอเพื่อนใหม่ มิตรภาพใหม่ มีความสุขในโลกของมิตรภาพใบนั้น และมีความสุขกับวังวนของโลกแห่งการเรียนรู้ใหม่ๆ ใกล้เวลาแล้วที่เด็กชายต้องเปลี่ยนผ่านไปเป็นคนที่ต้องเดินด้วยขาของตัวเอง แต่เคยได้ยินกันไหม “ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน” ผู้ใหญ่ย่อมรู้ดีว่าทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่างเป็นอย่างไร เด็กชายอยากออกไปผจญโลกกว้าง อยากลองเจ็บบ้าง ล้มบ้าง อยากเจอโลกของมิตรภาพใบใหม่ เจอโลกที่โหดร้ายเกิน และโลกที่ทำให้เด็กชายรู้จักเข้มแข็ง และรู้จักอดทนต่อการใช้ชีวิตบนโลกใบนี้ ผู้ใหญ่ห้ามปรามเด็กชายว่า “โลกใบนี้มันน่ากลัว อย่าไปเลย กลับมาที่เดิมดีไหม ?” เด็กชายคนนี้เดินมาไกลมาก ไกลพอที่เดินกลับไปยังจุดเดิมไม่ได้แล้ว ทางเดินที่เด็กชายเดินมาไม่เหมือนเดิมตั้งแต่เริ่มออกเดินแล้ว แต่ใช่ว่าเด็กชายอยากจะเดินไปเรื่อยเปื่อยอย่างไร้จุดหมาย เด็กชายสัญญากับตัวเองว่า […]