ผมชอบที่จะอ่านหนังสือภาพที่มีตัวหนังสือน้อยๆ มาตั้งแต่สมัยเป็นบรรณารักษ์อยู่โรงเรียนเก่าแล้ว จริงๆ ก็อ่านทุกแนวนะครับ แต่ชอบแนวนี้มาก เพราะบรรยายภาพน้อยๆ บวกกับภาพที่ไม่ซับซ้อน ทำให้การสื่อเรื่องราวมันชัดเจนในตัวมันเอง วันนี้ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเจอหนังสือแบบนี้ในหอสมุดของมหาวิทยาลัย เจอเล่มนี้เลยครับ “ความรักของวงกลมกับสามเหลี่ยม” โดย เชล ซิลเวอร์สไตน์ แปลโดย ปราย พันแสง :3
หลายคนเคยอาจจะได้รับ Forward Mail เรื่อง ความรักของวงกลมกับสามเหลี่ยม มาบ้าง แต่อันนั้นหนะมันของก๊อปครับ ของจริงเป็นหนังสือที่จะมาเล่าให้ฟังเลย
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเจ้ามิสซิ่งอะพีซ มีบางส่วนในชีวิตที่ขาดหายไป ทำให้เค้าคิดว่าตัวเค้าเองไม่มีความสุข เลยออกตามหาชิ้นส่วนที่หายไป โดยกลิ้งไปเรื่อยๆ อย่างเอื่อยๆ ทำให้ระหว่างเดินทางสามารถแวะคุยกับเจ้าหนอน ดมดอกไม้และมีเจ้าผีเสื้อจนกลายเป็นเพื่อนกัน
อยู่มาวันหนึ่ง มันเจอชิ้นส่วนที่หายไปชิ้นหนึ่ง มันยอมคุกเข่าขอให้เจ้าชิ้นส่วนนั้นเป็นหนึ่งเดียวกับมัน แต่เจ้าชิ้นส่วนที่หายไปนั้นตอบกลับว่า “ฉันเป็นตัวฉันเอง และแม้ว่าฉันเป็นส่วนหนึ่งของใคร ฉันก็ไม่คิดว่า ตัวเองเป็นชิ้นส่วนของเธอ” ทำให้เจ้ามิสซิ่งพีซเสียใจและจากไป
หลังจากนั้นมันก็ออกตามหาเช่นเคย มันเจอชิ้นที่เล็กไปบ้าง ใหญ่ไปบ้าง บางชิ้นก็แหลมไป บางชิ้นก็เหลี่ยมเยอะ บางครั้งมันก็เจอชิ้นที่ถูกใจ แต่มันก็เข้ากันไม่ได้ บางครั้งมันก็เจอชิ้นที่แน่นไป ทำให้ชิ้นนั้นแตกหักไป
จนในที่สุดมันก็เจอชิ้นส่วนที่พอดีกับมัน มันเลยถามชิ้นส่วนนั้นว่าเป็นของใครหรือยัง ชิ้นส่วนนั้นตอบกลับมาว่า ไม่หรอก ด้วยความที่มันเจอชิ้นส่วนไม่พอดี ทำให้มันไม่แน่ใจกับชิ้นส่วนชิ้นนี้ แต่แล้วเจ้าชิ้นส่วนนี้กลับเข้ามาหาและพบว่ามันเป็นชิ้นส่วนที่พอดีกัน
ปรากฎว่ามันกลิ้งเร็วจนไม่แวะหยุดคุยกับเจ้าหนอน ดมดอกไม้ และให้ผีเสื้อเกาะตัวมันเหมือนเคย เพราะมันกลิ้งเร็วขึ้นจนหยุดไม่ได้ แต่ในที่สุด มันกลับหยุดหมุนแล้วถามตัวเองว่า “ในเมื่อเจอชิ้นส่วนที่สมบูรณ์ แล้วตัวมันจะเป็นอย่างไรต่อไป” มันเลยถอดชิ้นส่วนนั้นออกมา แล้วออกตามหาชิ้นส่วนที่ขาดหายต่อไป…
หลังอ่านจบ : ผมว่ามันเป็นหนังสือที่สื่อเรื่องของความรักในปัจจุบันได้ดีมากๆ เลยทีเดียว เด็กๆ อ่านก็อาจจะไม่เข้าใจนัก แต่ผมมองว่าหนังสือเรื่องนี้ สื่อถึงความรักในปัจจุบันนะ เดี๋ยวนี้คนเรามักจะไขว้ขว้าหาส่วนที่ขาดหายไป นั่นคือ คนรัก นั่นเอง ระหว่างตามหาก็มีเพื่อนๆ ที่ช่วยทำให้คุณคลายความกังวลในเรื่องส่วนที่ขาดหายไปได้ แต่เมื่อคุณเจอส่วนที่ขาดหายไป คุณก็มักจะมีปัญหาว่า บางคนคบกันไปก็ไม่พอดีกันบ้าง ไม่เข้ากันบ้างหรือบางคนคบกันแล้วอึดอัดจนอีกฝ่ายไม่อยากอยู่ด้วยบ้าง พอนานๆ เข้าทำให้คุณไม่มั่นใจกับความรักของคุณในครั้งต่อไป ถึงแม้คุณคิดว่าความรักของคุณสมบูรณ์แค่ไหน แต่ถ้ามันไม่ได้เกิดจากความผูกพันธ์ ความรู้สึกดีต่อกัน คบกันแค่ไหนก็ทำให้อีกฝ่ายคิดมากอยู่ดี อีกอย่างหนึ่ง หากคบใครก็อย่าลืมคนที่เคยทำให้คุณหายเหงา อย่าทอดทิ้งเขาเมื่อเราได้อีกคนมาครอบครอง
บางคนที่ได้อ่านอาจจะมองได้หลายแง่นะครับ แต่ผมมองเรื่องนี้ในแง่ความรักเลยละ มีอยู่ตอนนึงที่เข้ามิสซิ่งพีซไปเจอกับชิ้นส่วนสมบูรณ์แล้วถามเจ้าชิ้นส่วนนั้นหลายรอบว่า เป็นของใครหรือยัง เราจะเข้ากันได้มั้ย เธออยากเป็นของเราหรือเปล่า แต่พอเจ้ามิสซิ่งพีซยังไม่ได้รับคำตอบ เจ้าชิ้นส่วนที่หายไปก็เข้ามาโดยไม่ถาม ตอนนี้ทำให้ผมนึกถึงความรักที่ไม่มีการศึกษาดูใจกันมาก่อน คุณแค่เห็นว่าอีกคนดูน่าหลงไหลคุณก็เข้าไปครอบครองเขาแล้ว สุดท้ายอยู่กันไปนานๆ ก็หมดใจกันอยู่ดี
หนังสือเล่มนี้ แม้จะมีแต่รูป กับตัวอักษรนิดหน่อย แต่การสื่อเรื่องราวนั้นถือว่าโอเคเลยละครับ หากใครเจอหนังสือเล่มนี้ก็ลองเปิดอ่านดูนะครับ รับรองว่าอ่านจบ ได้แง่คิดอะไรมากมายแน่นอน 🙂
หนังสือ : ความรักของวงกลมกับสามเหลี่ยม
ผู้เขียน : เซล ซิลเวอร์สไตน์
ผู้แปล : ปราย พันแสง
สำนักพิมพ์ : มติชน
ปีที่พิมพ์ : 2553