ห่างหายจากการรีวิวหนังมานานมากกกก เพราะมานั่งคิดว่า ผมจะรีวิวไปทำไมเพราะยังไงเดี๋ยวก็มีเจ้าอื่นเค้ามารีวิวอยู่แล้ว พอดีได้ไปดูคู่กรรมมา เหตุผลเพียงแค่อยากรู้ว่า หนังมันห่วยเหมือนที่เค้าพูดๆ กันมาจริงๆ หรอ ได้คำตอบแล้วละครับ

คู่กรรม – กรรมของใคร ?

อย่างที่รู้ๆ ครับว่าคู่กรรมนั้นถูกรีเมคมาหลายรอบมาก เป็นละครโทรทัศน์ซะ 6 ครั้ง และภาพยนตร์ 4 ครั้ง (นับถึงปัจจุบันตามที่ วิกิพีเดีย บอกมาเลย) ซึ่งในปีนี้นั้น ยอมรับว่ากระแสการรีเมคหนังและละครเยอะมาก และด้วยความบังเอิญอะไรขนาดนี้ที่คู่กรรมนั้น ดันออกมาพร้อมกันปั๊งทั้งละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ ซึ่งฝั่งละครนั้นฉายทางช่อง 5 มี บี้และหนูนารับบทเป็นโกโบริและอังศุมาริน ส่วนภาพยนตร์เป็นณเดชน์และริชชี่(นักแสดงหน้าใหม่) แล้วก็ด้วยความบังเอิญรอบสอง ทำให้ไปชนหนังรายได้สามร้อยล้านไปแล้วอย่าง พี่มาก..พระโขนง ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการรีเมคใหม่ แต่เป็นการทำให้บทของหนังน่าสนใจขึ้น ทำให้คู่กรรมฉบับภาพยนตร์นั้นเจอปัญหาอย่างจังเลยทีเดียว
ไม่ขอพูดถึงเรื่องย่อของหนังนะครับ เพราะยังไงทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าคู่กรรมนั้นมีเนื้อเรื่องอย่างไร (ซึ่งจริงๆ ผมเองก็ไม่ค่อยรู้แบบละเอียดเท่าไหร่ว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไง) แต่การรีวิวครั้งนี้ จะขอพูดถึงเรื่องสำคัญๆ และองค์ประกอบของหนัง (ด้วยสติปัญญาที่มี) โดยไม่ขอนำไปเทียบกับเวอร์ชันอื่นๆ เด็ดขาด และขอพูดในมุมมองของคนดูหนังคนนึงละกันนะครับ
หากคุณยังจำเรื่อง 32 ธันวา, สุดเขต เสลดเป็ดและคุณนายโฮ แล้วละก็ คุณต้องรู้จักกับบริษัทหนังอย่าง M39 แน่นอน ซึ่ง คู่กรรม ในฉบับภาพยนตร์นี้ M39 เป็นคนทำครับ ฉะนั้น ไม่ต้องตกใจว่าทำไมหนังมันดูไม่เนียนบ้าง หรือทำไมมันมีลายเส้นของการทำหนังในแบบฉบับของ M39 ถ้าหากคุณจำได้ หนังของ M39 จะเน้นอะไรที่มันหลุดโลกสุดๆ ถ้าเอาตรงๆ คือ ทำหนังเพื่อให้คนพูดถึง คู่กรรมเรื่องนี้ก็เช่นกัน ผมไม่รู้ว่าเค้าต้องการสื่อสารออกมาแบบที่ผมเข้าใจหรือเปล่าว่า เค้าต้องการให้หนังของเค้าเป็นที่พูดถึง เหมือนกับ 32 ธันวา ที่เคยโด่งดังมานั่นเอง ทีนี้ผมว่าเค้ามาพลาดตรงบทของนักแสดงนี่แหละ เข้าใจว่าอยากมีพระเอกละครสุดหล่ออย่างณเดชน์มารับบทโกโบริ แต่นางเอกเป็นนางเอกหน้าใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าบทละครหรือต้นฉบับออกแบบให้อังศุมารินเป็นยังไง ถ้าเค้าออกแบบให้อังศุมารินเป็นสาวซึน ปากแข็ง พูดก็ไม่ค่อยเยอะ โอเค ผ่านแน่นอน (แต่ไม่ผ่านเวลาฉากที่ต้องหวานกับพระเอกนี่แหละ แข็งทื่อเหมือนเดิม) แต่ถ้าเค้าออกแบบมาว่าอังศุมารินต้องแสนซน เฟี้ยวฟ้าวเหมือนละคร อันนี้ตกเลยจริงๆ
สำหรับเนื้อเรื่องนั้น ในแบบฉบับ M39 เค้าจะเน้นหนังรักกุ๊กกิ๊กๆ อยู่แล้ว ตอนนั่งดูคือเห็นฉากพวกนี้เยอะมาก โดยเฉพาะ 30 นาทีแรกทีโกโบริและอั้ง อัง อัง อังศุมาลินมาเจอกัน หนังเล่นแบบหนักหน่วงมาก หนังก็ไม่ได้มีความหวือหวาอยู่แล้ว พอเอาฉากพวกนี้มาเล่น เหมือนมานั่งดูพระเอกจีบขอนไม้เลย -*- แต่เห็นฉากพวก Slow-motion ทั้งหลายนี่ไม่รู้ว่า ผกก.ตั้งใจหรือว่ายังไง แต่ละช็อตคือ ดูแล้วตลกอะ แทนที่จะซึ้งแบบ MV เกาหลีที่เดินช้าๆ กะพริบตาช้าๆ นี่กลายเป็นโดนระเบิดตู้ม ณเดชน์ตัวเบี้ยว ทำหน้าเบี้ยวๆ เฮ้อ – -” แล้วเรื่องการส่งบทตัวละคร ไม่ทั่วถึงอย่างแรง ทุกอย่างนี่ต้องขอให้โกโบริไว้ก่อน บางคนที่น่าจะมีบทพูดกลับไม่มี อย่างยายของอังศุมาลินก็น่าจะพูดไรบ้าง นี่ไม่พูดเลย หนีเข้าหลุมหลบภัยท่าเดียว หรือบางบทฟังแล้วทะแม่งๆ อย่างกับมีเสียงพากษ์มาทับซะงั้น อีกอย่างคุณวนัสมาตอนท้ายสุดอย่างกับตัวตัดบท คือวนัสมาปั๊บ ท่ารถไฟระเบิด แล้วก็จบเลย OTL
คือผมก็ไม่รู้ว่าเพราะ หนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ของหนังด้วยหรือเปล่าที่ทำให้การตีความของหนังดูบิดๆ เบี้ยวๆ ไป ขนาดตอนจบมันต้องซึ้งนะ เอาแบบบีบน้ำตาร่วง นั่งดูยังได้ยินคนข้างหลังผมพูดว่า “ดูดิ ตายละหายใจอยู่เลย” แล้วก็หัวเราะกันคิกคักๆ อีกอย่างหนึ่งที่ผมตะขิดตะข่วงใจคือ ตอนเด็กผมมักจะได้ยินเพลง คู่กรรม ที่ร้องไว้ “วิญญาณชั้นรอที่ทางช้างเผือก” “ดั่งหิ่งห้อยเฝ้าคอยจนชีพวาย” “ใต้ลำพูรอคู่กรรม” ในเรื่องมันไม่มีเลย แม้แต่นิดเดียวด้วย ทำให้กลิ่นอายของหนังมันหายไปเลยนะ อีกอย่าง ถ้าเค้าเอาเพลงคู่กรรมมารีเมคอีกซักหน่อยก็โอแล้ว แต่เค้าเลือกที่จะทำเพลงใหม่ก็ได้ ซึ่งเพลงโอเคอยู่นะ เพราะดีๆ แต่หนังก็ยังกร่อยอยู่ดี
สรุปเลยละกัน ถ้าเป็นคนที่มีอดทนสูง สามารถดูหนังโดยการไม่เอาเวอร์ชั่นก่อนๆ มาเทียบ และไม่คาดหวังอะไรกับมันมาก ไปดูเถอะครับ  จะได้รับรู้ว่าการเน้นมุมมองความรักของโกโบริและอังศุมารินในเวอร์ชั่นนี้เป็นยังไง (เพราะเค้าเน้นความรักของสองคนนี้จริงๆ นะ เน้นมากๆๆๆ นะ)

ของฝากท้ายเรื่อง

ผิดเรื่องแล้วพวกเอ็ง