ภาพยนต์เรื่องนี้อดที่จะไม่รีวิวไม่ได้จริงๆ เป็นหนังไทยที่ผมจัดให้ติดอยู่ใน Top 3 ของปีนี้เลยนะ (จากหนังไทยที่ดูมาหลายๆ เรื่อง) จริงๆ หนังเรื่องนี้โคตรจะโปรโมตเงียบมาก แต่กระแสของคนที่ไปดูรอบสื่อ บวกกับการที่หนังได้เข้าฉายและร่วมประกวดชิงรางวัลในเทศกาลหนังเบอร์ลิน ครั้งที่ 63 ที่ประเทศเยอรมัน และ เทศกาล ฮ่องกงฟิล์ม เฟสติวัล ทำให้ต้องมารีวิวเรื่อง “ตั้งวง” ซะเลย

มาร่วมกัน “ตั้งวง” เพื่อย้อนดูสังคมไทย

ตั้งวง เป็นภาพยนต์ที่กำกับโดยคงเดช จาตุรันต์รัศมี ผู้กำกับหนังดังหลายๆ เรื่องเช่น กอด, The Letter จดหมายรัก และ My.. Myself ขอให้รักจงเจริญ ซึ่งเค้าบอกว่าเรื่องนี้ คุณติ๊ก กัญญารัตน์ ดาราคนสวยเป็นผู้ช่วยกำกับบทหนังด้วย (อ่านที่นี่)
เนื้อเรื่องย่อๆ คือ เด็กนักเรียน 4 คนประกอบไปด้วยเด็กเก่ง เด็กเนิร์ด เด็กเกรียนและเด็กติ่งเกิดจับพลัดจับผลูไปบนกับพ่อปู่ว่า ถ้าคำขอของตัวเองเป็นจริง ก็จะแก้บนให้พ่อปู่ด้วยการ รำถวายด้วยตัวเอง จบครับ (ใช่ เนื้อเรื่องมียังงี้จริงๆ แต่…)
เราอาจจะมองจากโปสเตอร์ว่ามีเด็กตั้งวงรำ แถมชื่อหนังก็แค่เนี๊ยะ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย คงแค่เป็นเด็กมาแก้บนด้วยการรำแล้วก็ส่งเสริมวัฒนธรรม คิดผิดแล้วครับ หนังกำลังเล่นกับสิ่งที่สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้แบบเต็มเหนี่ยว ดูเรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าตัวละครเด็กๆ ทั้ง 4 คนในเรื่องเป็นใคร หล่อมั้ย ไม่ต้องครับ ดูความเป็นธรรมชาติของพวกเค้าที่กำลังถ่ายทอดว่าสังคมในปัจจุบันนี้มันเป็นอย่างไรก็พอ
หนังไม่ได้ข้อคิดนะครับ แต่ให้คุณผู้ชมนั่นแหละได้กลับมาคิดว่า ที่เด็กต้องไปบนบานศาลกล่าวเนี่ยมันเกิดขึ้นจากอะไร ซึ่งนี่คือประเด็นหลักที่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ส่วนอื่นๆ ที่มีแต่คำถามนั้น มันก็มีมากมายอีกครับ เช่น เอกลักษณ์ของความเป็นไทย ความวุ่นวายทางการเมือง และที่สำคัญหนังกัดได้เจ็บมากในเรื่องของการศึกษาและการเปรียบเทียบประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์
ต้องยอมรับว่าตอนออกจากโรงแล้วเผลอไปเทียบกับซีรีย์ฮอร์โมน แต่พอผมมานั่งคิดแล้ว หนังเรื่องนี้เค้าไม่ได้จะสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของวัยรุ่นแบบฮอร์โมน แต่เค้าสะท้อนสิ่งที่เป็นสังคมตั้งแต่สังคมครอบครัว สังคมโรงเรียน รวมไปถึงสังคมในระดับประเทศ ซึ่งตัวบทของหนังนั้นตอนแรกเหมือนจะดูย้อนแย้งกันอยู่มาก ทำให้เราต้องคอยตั้งข้อสงสัยตลอดว่า ทำไม ทำไม แต่พอจบปั๊บกลายเป็นว่าตัวละครตัวนั้นกลับมาถามคำถามใส่เราซะดื้อๆ ซึ่งคำถามที่ได้รับกลับมานั้นเหมือนกับการโดนไม้หน้าสามฟาดที่พุงจนจุกไปหนึ่งที (ไปตามอ่านแท็ก #ตั้งวง ใน Twitter ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าออกจากโรงแล้วเหมือนโดนผู้กำกับเอาไม้ฟาดหน้า)

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถทำเงินในประเทศได้มากน้อยแค่ไหน เพราะดูจากกระแสแล้วโดนลดโรงไปเยอะพอสมควร อยากให้โปรโมตมากกว่านี้ แต่ผมคิดว่าต้องอาศัยแรงปากต่อปากแล้วละ เพราะถ้าโปรโมตมากจะทำให้ไปดูเรื่องนี้ไม่สนุกแน่ๆ ก็เลยอยากให้คุณได้ไปชมภาพยนต์เรื่องนี้เพราะผมอยากให้คุณไปลองตั้งคำถาม ไปโดนคนถามคำถามใส่และผมอยากให้คุณไปดูว่าประเทศไทยตอนนี้พวกเราควร “ตั้งวง” เพื่อแก้ปัญหาให้กับเด็กๆ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติแล้วหรือยัง 🙂

ปล ๑ : ตอนแรกก็นึกอยู่เหมือนกันว่าทำไมชื่อหนังว่า ตั้งวง แต่ตอนนี้พอจะอ๋อแล้ว หึหึ
ปล ๒ : ใครเป็นแฟนเพลง KPOP วง U-Kiss อาจจะได้มีกรี๊ดโรงแตกแน่ ฮ่าๆ