ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้ Social Network มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสังคมของมนุษย์เรา วันๆ หนึ่งมีข้อมูลมากมายมหาศาลที่ไหลอยู่ในสังคมออนไลน์นับไม่ถ้วน รวมถึงข่าวสารต่างๆ มากมาย ที่สำคัญบ้านเมืองเดี๋ยวนี้ก็เกิดอะไรมากมาย จะมามัวเสพย์ข่าวผ่านหนังสือพิมพ์หรือทีวีก็คงจะไม่ทันใจใช่ไหมเล่า เราก็จะเห็นได้ว่าสำนักข่าวหลายๆ เจ้าทั้งไทยและต่างประเทศก็เริ่มให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวผ่านสังคมออนไลน์กันมากขึ้น เพราะมันรวดเร็วกว่ายังไงหละ

ทีนี้พอเรามองไปที่ Social Network ระดับตัวพ่อในประเทศไทย ตอนนี้ Facebook ก็ยังได้รับความนิยมเปรี้ยงปร้างอยู่  ซึ่งจริงอยู่ว่ามีผู้ใช้เยอะมากมายนะ แต่ด้วย Algorithm ของ News Feed อันแสนจะไม่โปรดปรานต่อผู้เสพย์ข่าว มันไม่เอื้อต่อการนำเสนอข่าวแบบ real-time เท่าที่ควร ฉะนั้นผมก็เลยมานำเสนอการใช้ Social Network อีกตัวที่ฮิตไม่แพ้กัน นั่นคือ Twitter นั่นเอง

เกริ่นสั้นๆ กับ Twitter

Twitter (อ่านว่า ทวิตเตอร์) เป็นสังคมออนไลน์ประเภทหนึ่งที่อยู่ในหมวดของ Micro-Blog ซึ่งคุณสามารถเล่าเรื่องราวที่พบเห็นในประจำวันได้อย่างอิสระภายใต้ 140 ตัวอักษรต่อ 1 ทวีต (หรือ 1 ประโยค) วิธีการเล่นก็ไม่ซับซ้อนอะไรมากมาย เพียงแค่เราอยากอ่านเรื่องราวของใครก็ตามไปกดติดตามหรือ Follow คนนั้น เราก็จะเห็นว่าในแต่ละวันเค้าทวีตอะไรบ้าง แล้วถ้ามีคนมากดติดตามคุณเค้าก็จะเห็นว่าคุณทวีตบ้าง หากชอบใจทวีตไหนก็กด Retweet (RT) เพื่อให้คนที่ติดตามคุณเห็นด้วย ซึ่งสิ่งที่ช่วยตอบสนองให้การใช้งาน Twitter ได้ดีขึ้นนั่นคือ Timeline ซึ่งเราจะเห็นทวีตต่างๆ ของเพื่อนที่เราติดตามไว้แบบ real-time วินาทีต่อวินาทีเลยทีเดียว ทำให้เกิดความรวดเร็วในการสื่อสารมากขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยการนั่งอ่าน Timeline ทั้งวัน และข้อดีของการใช้งาน Twitter อีกอย่างหนึ่งคือ สามารถใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์หรือแอปบนมือถือทั้งที่เป็นของ Twitter เองหรือจะเป็นนักพัฒนาที่นำ API ไปใช้งานก็ได้ ทำให้เข้าถึง Twitter ได้อย่างทุกที่และทุกเวลา

รู้จักกับ Vine อีกนิด

Vine (อ่านว่า ไวน์) เป็นสังคมออนไลน์ที่เกิดขึ้นมาภายในบริษัทเดียวกับ Twitter เกิดมาเพื่อตอบสนองความไม่เพียงพอต่อ 140 ตัวอักษร Vine จึงทำหน้าที่ช่วยถ่ายวีดีโอสั้นๆ ภายใน 6 วินาทีแล้วทำการแชร์ใน Twitter ได้ทันทีนั่นเอง เพราะภายใน 6 วินาที คุณสามารถเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างกระชับพอๆ กับการทวีต 140 ตัวอักษรนั่นเอง ซึ่งการใช้ Vine ในส่วนอัดวิดีโอจำเป็นต้องใช้งานผ่านแอป Vine บนมือถือก่อน แต่การดูคลิปนั้นสามารถดูผ่านแอปรือผ่านหน้าเว็บได้เลย

แล้วจะใช้ประโยชน์เจ้าสองตัวอย่างไร ?

ด้วยความที่มันเป็น Social Network แบบ real-time และมีฐานผู้ใช้อยู่มากมายทั่วโลก จึงไม่ยากที่ผู้ใช้อย่างเราๆ จะนำเสนอข้อมูลต่างๆ ให้กับสังคมได้ง่ายๆ ดังนี้
  • เปิดใช้งาน Location ในทวิตนั้นๆ : หลายๆ คนจะไม่รู้ว่าเราสามารถเปิด Location เพื่อบอกถึงตำแหน่งที่เราทวีตได้ ซึ่งทำได้ทั้งบนมือถือและเว็บไซต์ (แต่บนเว็บไซต์จะแสดงผลไม่ละเอียดเท่าไหร่) ยกตัวอย่างเช่น เจอเหตุการณ์รถชนกันแต่เราบอกไม่ถูกว่าอยู่ที่ไหน ก็ทำการเปิด Location ในมือถือพร้อมกับถ่ายภาพ และอย่าลืมบอกในทวีตว่า ที่อยู่ตาม Location หรือบอกที่อยู่ ณ ตอนนั้นก็ได้ว่าอยู่ตรงไหน จุดไหน ใกล้กับอะไร เพื่อจะได้ตามกันได้ง่ายและเป็นหลักฐานชั้นดีว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง ณ ที่ตรงนี้
  • ถ่ายภาพเพื่อความน่าเชื่อถือขึ้นไปอีก :  อย่ามัวแต่จิ้มมือถือเวลาที่เจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพราะนอกจากจะเปิด Location แล้ว ถ้าจะเอาให้ละเอียดกว่านี้ก็ว่ารถชนจริงๆ นะเนี่ย ก็แนบภาพถ่ายเข้าไปด้วย จะถ่ายก่อนแล้วแนบทีหลังหรือถ่ายผ่านจากแอปก็มีค่าเท่ากัน แต่ถ้าจะให้ดีก็ถ่ายแบบทันทีผ่านแอปเลยจะดีกว่า ที่สำคัญ…
  • อย่าใส่ Filter ให้กับภาพโดยไม่จำเป็น : ไม่ต้องกลัวว่าภาพที่ถ่ายจะไม่สวย ข้อมูลข่าวสารต้องการภาพจริงๆ สถานที่เกิดเหตุจริงๆ ฉะนั้น อย่าใส่ Filter หรือปรับแต่งภาพใดๆ เลยจะดีกว่า เดี๋ยวพอสีเพี้ยนละจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดกันหมด
  • ใช้ Vine ในยามฉุกเฉิน : ถ้ามันไม่รีบร้อนจนเกินไป หรือคิดว่าภาพนิ่งมันจะไม่สะใจเท่าไหร่ ต้องแบบมีเสียงประกอบพร้อม ก็เปิดแอป Vine แล้วถ่ายวีดีโอ 6 วินาทีซะ แล้วอัพขึ้น Twitter ด้วยดีกว่า นอกจากจะช่วยให้น่าเชื่อถือและทำให้ข้อมูลมีมิติมากขึ้น มันอาจจะได้ช่วยในยามที่ไม่สะดวกพิมพ์ได้อีกด้วย แถมผู้ใช้บน Twitter ไม่ว่าจะผ่านหน้าเว็บหรือบนมือถือก็สามารถกดดูได้เลยโดยไม่ต้องเข้าแอป Vine ได้ทั้งภาพและเสียง ถ้าจะให้ดีก็ใส่ Location ไว้ด้วยนะ เช่น…

คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.มาทานข้าวที่ชั้นใต้ดินศูนย์อาหาร ศูนย์ราชการฯ พร้อมแกนนำคนอื่นๆ #exitTHhttps://t.co/eKaaZE8TR4
— Weerid Hooncharoen (@Weerid_ThaiPBS) December 8, 2013

  • ติด Hashtag กับสถานการณ์ที่มีคนรายงานเยอะๆ : ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์สำคัญๆ แล้วเราไม่สามารถคัดกรองข้อมููลของเหตุการณ์นั้นๆ ได้ ระบบค้นหาใน Google ก็ไม่ช่วยให้สะดวกเท่าไหร่ ก็ให้ทำการใส่ Hashtag (#) เข้าไปในทวีตด้วย จะช่วยให้เราสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์นั้นๆ จากคนอื่นได้เร็วขึ้น เหมือนที่มีแท็ก #thaiflood ที่ช่วยรายงานน้ำท่วมในประเทศไทยนั่นเอง
  • อย่า Protect Account ถ้าจะรายงาน : เป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของผู้ใช้ทั่วๆ ไป ถึงแม้ว่าคุณจะใส่ Hashtag ไว้ก็ตาม แต่ถ้า Protect Account หรือล็อกไม่ให้คนอื่นกดตาม Follow มั่วๆ หากคุณรายงานข่าวอะไรก็ตาม คนที่เห็นจะมีแต่เพื่อนที่คุณอนุญาตให้เค้าตาม Follow พอเพื่อนจะกด RT กลับกดไม่ได้เพราะคุณล็อคทวิตไว้นั่นเอง ฉะนั้น หากจะรายงานเหตุการณ์อะไร ถอด Protect Account ก่อน พอคนเริ่มเบาๆ RT หรือจบรายงานก็ค่อยล็อกกลับดีกว่า
  • ร่วมด้วยช่วยกัน RT : หากมีเหตุการณ์ไหนควรจะให้คนอื่นรับทราบด้วยจากทวีตคนอื่น ก็จงกด RT กันโดยด่วน ซึ่งอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าหากมี Location / ภาพ / วีดีโอ หรือหลักฐานที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ ก็กด RT ไปได้เลยเพื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น หากทวีตมาลอยๆ หรือไม่มีที่มาก็พิจารณากันก่อนซักนิด เดี๋ยวจะปล่อยโคมกันสนุกสนาน

  • อย่าทวิตข้อความวกวนเวลาจะรายงาน : เวลาต้องการรายงานว่าที่ที่เราอยู่ ณ ตอนนี้เป็นอย่างไร ควรทวีตให้กระชับและคนอื่นอ่านสามารถเข้าใจได้ทันที เช่น “รังสิตฝนตกหนัก ขาเข้าเมืองรถติดมากตอนนี้ เลี่ยงได้จะดี” ไม่ต้องสนใจความสุภาพของข้อความแบบ “ที่รังสิตฝนตกหนักมากเลยครับผม ขาเข้าเมืองรถติดมากๆ เลยนะครับ พิจารณาเส้นทางใหม่จะดีมากๆ ครับ” คือแบบ.. ยาวไปมั้ยเนี่ย เป็นไปได้ก็ขอให้มันอ่านแล้วเข้าใจในทีเดียวคนอื่นก็จะ RT ให้เอง ที่สำคัญ หลีกเลี่ยงการใส่อารมณ์หรือ Emoticon เข้าไป เช่น “เจอรถคว่ำด้วยอ่า รถตรงนี้ติดโคตรๆ เลย T__T” เพราะนอกจากจะเปลืองตัวอักษร ทวีตของคุณก็จะไม่เป็นประโยชน์เลย ยิ่งไม่มีหลักฐานนี่ยิ่งไม่น่าเชื่อใหญ่ ฉะนั้น ทวีตข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก่อนซักหนึ่งทวีต แล้วอยากจะใส่อารมณ์ว่าฉันหงุดหงิดที่รถติดอันนี้ก็ตามสบายนะจ๊ะ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นช่องทางในการรายงานข่าวผ่านทาง Twitter อย่างมีประโยชน์แก่สังคมเบื้องต้นนะฮะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ คนที่ใช้ Twitter เผื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องการรายงานให้คนอื่นทราบก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ หรือใครมีเทคนิคอะไรอยากแนะนำก็คอมเมนท์กันไวได้เลยนะฮับ ^^